และใจจริงอยากจะเขียนให้ละเอียดแบบทุกขั้นไปเลยนะ เพราะหลังจากเตรียมตัวสอบ ก็ต้องเตรียมของ เก็บกระเป๋า แล้วก็รีวิวตอนนั่งเครื่องบิน ถึงสนามบิน แต่คิดไปคิดมา มันคงไม่น่าสนใจอะมั้ง เลยขอข้ามละกันเนอะๆๆๆ และจะมาพูดถึงประสบการณ์ การสอบเข้า STK ณ ประเทศเยอรมนี แห่งนี้ นี่เองงงงงงง
ย้ำอีกครั้ง ว่าบล็อกอาจไม่ค่อยมีรูปภาพประกอบเยอะแยะ อลังการ เพราะเป็นคนไม่ค่อยชอบถ่ายรูปอะไรเท่าไหร่ ถ่ายแบบมือโปรไม่เป็น กล้องไม่มี ใช้มือถือเอา แม้บางเมืองที่ไปเที่ยว ยังไม่ถ่ายซักรูปเลย 55 และถ้าไม่ตั้งใจจะเขียนบล็อกนี่ รูปคงไม่มีในกล้องเลยก็เป็นได้ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ T T
ตัวอย่างภายในเครื่อง A380 (รูปไม่ได้ถ่ายเองนะ จิ้กเค้ามาจากเน็ต 555) |
แต่ก็ขอเกริ่นซักนิดละกัน อิอิ เราบินมากับสายการบิน Emirates ช่วงครึ่งแรกด้วย A380 ที่เค้าว่าใหญ่ที่สุดตอนนี้ เครื่องเงียบจริงๆ จอก็ใหญ่ได้ใจแบบ HD อีกตังหาก แฮปปี้มาก แต่มีอยู่แค่อย่างเดียวที่ไม่ชอบคือ ปลั๊กเสียหูฟังมันอยู่ตรงข้างๆรีโมทตามภาพ ไม่ได้อยู่ตรงข้างๆที่นั่งหนะสิ เกะกะเวลาจะกินข้าว คนเดินผ่านก็ต้องถอดเข้าๆออกๆ ข้อเสียคิดออกอย่างเดียวจริงๆ ส่วนครึ่งหลัง หลังจาก transit ที่ดูไบ มาด้วยเครื่อง B777-300ER ดูเหมือนคนละโลกกับเครื่องก่อนหน้า เล็กกว่าทุกอย่าง แต่ก็อะนะ ทนๆอีกไม่กี่ชม. ก็ผ่านมาได้ และถึงสนามบิน Frankfurt โดยสวัสดิภาพ รวมเวลาเดินทางประมาณ 15ชม. กำลังดีเลย (ถ้า Direct flight ก็ประมาณ 11 ชม. ซึ่ง Emirates ไม่มีอยู่แล้วเนอะๆ)
วาร์ปมาถึงวันที่สำคัญที่สุดของการมาเยอรมันครั้งนี้ ซึ่งที่แรกเป็นการสอบของ KIT วันที่ 1 กันยายน ซึ่งเราเป็นรอบ Wintersemester มันเหมือนเทอมหลักของที่เยอรมัน ในที่นี้หมายถึง ทุกคณะจะเปิดรับช่วงนี้หมด ทำให้รอบนี้คนสอบเยอะเป็นธรรมดา ถ้าให้ประมาณ ก็คง 600 คนบวกๆ ซึ่งรับในรอบนี้ประมาณ 70-80 คน ก็รับประมาณ 10% ได้แหละ ซึ่งรอบ Sommersemester มหาลัยจะเปิดรับเฉพาะบางคณะ STK ก็เลยรับน้อยเข้าไปอีก (คนสมัครก็จะน้อยกว่าด้วยแน่นอน) แต่ไม่ว่าคนจะเยอะแค่ไหน ถ้าเก่งจริง ยังไงก็ติด ไม่ต้องกลัว มันคือสัจธรรมอยู่แล้ว (พูดเหมือนชมตัวเองอยู่นะ 555)
ลืมไปแล้วด้วย ว่าเคยถ่ายไว้รูปนึง 555
เป็นช่วงก่อนสอบเลข คนต่อแถวรอเข้าห้องล้นไปถึงข้างนอกเลย พ่อแม่ที่มาส่งก็มีเยอะอยู่
|
ช่วงหลัง สอบเยอรมัน เป็นข้อสอบ onDaF ในห้องคอม ได้เวลาสอบไม่พร้อมกัน เราได้สอบช่วง 2 ก็มีเวลาพักซักแปป แล้วก็อยากให้เป็นอุธาหรณ์ เพราะมีคนไปถึงช้า เค้าไม่ให้เข้าสอบเลย โหดจริงๆ ตัวอย่างข้อสอบก็กลับไปดูได้ที่ บทที่แล้วเช่นเคย อิอิ ซึ่งสอบเสร็จ ก็รู้ผลเลย เราได้ประมาณ 66% (ระดับ B2) แปลว่าเยอรมันผ่านชัวร์ รอผลเลขอย่างเดียว ซึ่งตอนนั้นหวั่นมาก ซึ่งเดาว่าถ้าได้คะแนนระดับ B1 เป็นต้นไป ก็คงไม่มีปัญหาแหละ
จากนั้นก็ได้ไปเที่ยวเมืองที่ชื่อว่า Berchtesgaden ทางตอนใต้ของรัฐ Bayern ติดกับออสเตรีย สวยมากๆ มีภูเขาสูงอันดับ 3 ของเยอรมัน แล้วก็มีทะเลสาบ Königsee ที่ลึกเป็นอันดับ 3 ของเยอรมัน และภายในบริเวณทะเลสาบ จะมีน้ำตกที่สูงที่สุดของเยอรมันอีกด้วย เหมาะแก่การพักผ่อนจริง แล้วก็มีคำกล่าวนึงว่า "1000 คำพูด ก็ไม่เทียบเท่ากับ ภาพ 1 ภาพ" เพราะฉะนั้น เราไม่ไม่มีอะไรจะพูด ขี้เกียจหาประวัติของพื้นที่นี้ อยากรู้ไปดูเพิ่มเองนะ เอาภาพให้เลย ดูเอาเองละกัน เคยได้ยินมั้ย น้ำใส ไหลเย็น เห็นตัวปลา (เอ๊ะ ยังไง!?)
ปล. รูปด้านล่าง ถ่ายเองหมดเลยนะ แต่จะฟินกว่านี้ ถ้าได้ไปสัมผัสเอง เชื่อสิ
และวันรุ่งขึ้น ก็เตรียมตัวเพื่อไปสอบครั้งที่ 2 ณ เมือง Leipzig แต่ทว่า เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นอีกแล้ว จะเศร้าแต่น้ำตาก็ไม่ไหล จะยิ้มก็ยิ้มได้ไม่สุด เกิดอะไรขึ้นนั้น ติดตามต่อบทหน้า วันนี้ขอตัวลาไปก่อน พรุ่งนี้เปิดเทอม 2 วันแรกซะด้วย ต้องขอตัวไปนอนก่อน ฝันดีครับทุกคน :)
No comments:
Post a Comment