28.5.17

Schritt 14: ที่ซุกหัวนอน ตอนที่ 3 (สำเนาทะเบียนบ้าน)

ถือว่าเป็นตอนสุดท้ายกับเรื่องการหาที่พักละ ในเมื่อเราย้ายเข้า ก็จำเป็นต้องมีสัญญาเช่าห้อง แน่นอนว่า ประสบการณ์เราก็ไม่ช่ำชอง เพราะอยู่มาไม่ถึงปี ที่พักก็ไม่เคยเปลี่ยน ทำสัญญาแค่ครั้งเดียว ไว้ถ้าย้ายที่พัก แล้วมีอะไรพิเศษก็จะเอามาอัพเดตเพิ่มเติมเหมือนเดิม อย่างที่เคยบอกไปก่อนหน้าเนอะ (บทนี้อาจจะสั้นไปหน่อย (รึเปล่า) และก็อาจมีพิมพ์พลาดบ้าง ต้องขออภัย)

ซึ่งสัญญาเช่าห้อง เน้นว่าอ่านให้ดีๆ ก่อนจะเซ็นชื่อ ควรจะให้ครอบคลุม ว่าจ่ายเท่าไหร่ รวมค่าอะไรบ้าง เงื่อนไข
สัญญาเป็นยังไง บางทีต้องเสริมค่าเน็ต จะยกเลิกสัญญา ก่อนกำหนดได้มั้ย ต้องแจ้งล่วงหน้านานเท่าไหร่ อย่าลืมเช็ค เพราะเคยได้ยินมาเหมือนๆกันว่า สัญญาห้อง ติดระยะยาว หรือห้องห้ามปล่อยให้เช่าต่อ (ปกติแล้ว ถ้าเป็นหอมหาลัย เค้าจะห้ามอยู่แล้ว) เช่น มีเพื่อนเราคนนึง ไปอยู่แทนเพื่อนของเขา เพราะเจ้าตัวไม่อยู่ เดือน 2 เดือน แล้วทางคนดูแลหอเขาจับได้ สุดท้าย เพื่อนคนนั้นก็ไม่ได้ค่า Kaution คืน แต่ก็มีเพื่อนอีกคนนึงเหมือนกัน ได้ห้อง เพราะคนรู้จักเค้าไม่ได้เรียนต่อที่นี่แล้ว แต่กลับไม่มีปัญหาอะไร (หรืออาจจะมีในอนาคตรึเปล่าไม่รู้เหมือนกันอะนะ เพราะไม่ได้ถามละเอียด) แต่ยังไง ที่อยากฝากไว้คือ จะเซ็นสัญญาอะไรที่นี่ ต้องอ่านดีๆ (รวมทั้งพวกสัญญามือถือด้วย)

พอได้สัญญามาแล้ว เราก็สามารถไปลงทะเบียน เพื่อขอใบที่เรียกว่า Meldungsbestätigung จะเรียกว่าทะเบียนบ้านของไทยก็ไม่เชิง เพราะที่นี่ไม่เคยเห็นอะไรเป็นเล่มๆเลย แม้แต่บัญชีธนาคาร ก็ไม่มีสมุดให้ (แปะไว้อีกเรื่องนะ มาเล่าละเอียดทีหลัง 555) ซึ่งขอบอกก่อนว่า แต่ละเมือง วิธีการ ต่างกันแน่นอน แต่ที่แน่ๆ ก็ให้ไปติดต่อพวก Rathaus ยังไงเค้าก็บอกเราเองแหละ ว่าควรทำอะไรยังไงเนอะ

17.5.17

Schritt 13: ที่ซุกหัวนอน ตอนที่ 2 (ประสบการณ์ตรง)

สุดท้ายก็ผิดสัญญา ไม่ได้มาเขียนตามที่นัดไว้ T T แต่ก็เอาเป็นว่าเรามาต่อกันที่เรื่องของ ที่พัก กันเลยดีกว่า ที่จริงตอนนี้อีกเดือนนิดๆก็จะสอบจบ STK แล้ว แต่ยังไม่ได้เริ่มเล่าเลย ว่าระหว่างเรียนเป็นยังไง น่าจะอีก 2-3 ตอนได้มั้ง ไม่แน่ว่าพอสอบจบแล้วเพิ่งจะเริ่มเขียน ก็เป็นได้ 555

ประสบการณ์การหาที่พักของตัวเอง ก็อย่างที่เคยบอกไปตั้งแต่ตอนที่แล้ว Studentenwohnheim ของมหาลัย จองไปล่วงหน้าเป็นเดือน ก็เท่านั้นเลย เต็มอย่างเดียว ดูยังไง แววที่จะได้ไปตอนถึงที่นั้นเท่ากับ 0 ก็เลยต้องหาจากเว็บ wg-gesucht.de พยายามจะหาตั้งแต่ที่ไทย ถึงแม้เราจะเขียนแนะนำตัวเป็นภาษาเยอรมัน อ่านรายละเอียดที่เขาบอก ว่าต้องการรู้อะไรจากเรา ก็ไม่มีใครตอบกลับ พวกที่ตอบกลับ มีแต่มิจฉาชีพเท่านั้น เรียกได้ว่า ยิ่งหา ยิ่งท้อใจ สุดท้ายเลยต้องเอามาตายดาบหน้า หาห้องตอนอยู่ที่นี่เลย
เทคนิคที่อยากจะฝากเลย คือ เวลาหาห้องเหล่านี้ ยิ่งถ้าเป็นเมืองมหาลัย ช่วงใกล้ๆเปิดเทอมอีก แค่ลงไป 1 ชั่วโมง มั่นใจได้เลย ว่าต้องมีคนเขียนไปหาแล้วเป็น 10 คน เพราะความต้องการห้องมันสูงมาก ดังนั้น เวลาจะติดต่อ ห้องที่ประมาณว่าโพสไปเมื่อ 2-3 วันที่แล้วนี่ แทบจะลืมไปได้เลย มันไม่อยู่ให้เราแล้วแน่นอน
แหล่งหาห้องที่ดี อีกวิธีนึง ก็จะเป็นทางหนังสือพิมพ์ประจำเมือง รวมถึง เว็บไซต์และบอร์ดที่ Studentenwerkของทางมหาลัยเอง (อันนี้ปลอดภัยชัวร์ เพราะเค้าสกรีนมาแล้ว) หรือบอร์ดสาธาณณะ หรือบอร์ดตามอาคารมหาลัย ก็อาจพบได้เช่นกัน

พอมาถึงที่นี่ ได้จองห้อง hostel ไว้ประมาณ 5 วันได้มั้ง (Airbnb เป็นอีกหนึ่งทางเลือก แต่ตอนนั้นตัดสินใจช้าไปหน่อย เลยไม่มีห้องเหลือแล้ว เศร้า T T) ระหว่างนี้เป็นช่วงที่ลุ้นยิ่งกว่าตอนสอบเสร็จอีก ว่าจะติดรึเปล่า เพราะถ้าสอบไม่ติด ยังหาอะไรทำได้ แต่ถ้าไม่มีที่อยู่นี่ หนักเลย! เงินในช่วงนี้ ก็ต้องเป็นเงินแบบติดกระเป๋า เพราะถ้าใครยังจำได้ ว่าเราเคยเปิดบัญชี Sperrkonto เอาไว้ ก็ยังใช้ไม่ได้ เพราะเราต้องไป activate ก่อน โดยเอกสารที่ต้องใช้ก็คือ ที่อยู่บ้านนั่นเอง เรียกได้ว่า เครียดสุดๆ บอร์ดมหาลัยตอนนั้น ก็มีห้องประมาณ 20-30 ห้องได้ แต่ราคาแต่ละห้องนี่ 400 ยูโรบวกๆ ต่อเดือน หรือบางทีเป็นห้องเปล่าอีก (วิธีติดต่อที่ได้ผลเร็วที่สุด คือการโทรศัพท์ และยิ่งตอนนั้น ด้วยภาษาอันแกร่งกล้าของเรา ทำให้ไม่กล้าโทรไป) สุดท้ายก็ไม่ได้ติดต่อไปซักที่