2.10.16

Schritt 1: มาเรียนภาษาเยอรมันกันเถอะ!

หลังจากที่ได้แนะนำตัวกันไปแล้ว (ใครยังไม่รู้จัก คลิกนี่นะ >>> Schritt 0: จุดเริ่มต้น)
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ว่าจะเขียนแนวไหนดี แบบประสบการณ์ตัวเอง หรือเขียนเป็นแบบให้แนะนำ how-to... เอาเป็นว่า แล้วแต่อารมณ์คนเขียนละกัน (~.~)"

ตอนแรกที่อยู่ม.4 คิดว่าเรียนเยอรมัน ได้รู้เพิ่มอีกภาษาก็เท่ดี (มีพ่อเลี้ยงเป็นคนเยอรมันด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นหลักหรอก เพราะเค้าก็ไม่ได้บังคับให้เราเรียนอยู่ดี) กับสถาบันสุดฮอต Goethe Institut นั่นเอง!! ตอนเรียนเล่มแรกนี่แบบ ง่ายโคตร แฮปปี้ รู้สึกว่าทำไมเก่งอย่างงี้ พอเจอเล่ม 2 เท่านั้นแหละครับพี่น้อง จำได้ว่า "die Schule" ทำไมมันกลายเป็น "an der Schule" คือนอกจากต้องท่องเพศแล้ว มันเปลี่ยนเพศได้ด้วยหรอ (ถ้าอยากรู้เหตุผล ทักมา ค่าสอนถูกๆ... แอบขายของหน่อย 55) แล้วคำศัพท์เริ่มจำไม่ไหว ท้อแท้มาก แต่ด้วยกำลังใจ และความอยากเท่ ;) เลยฮึดเรียนต่อมาเรื่อยๆ ยากบ้าง ง่ายบ้าง แล้วก็ต้องเริ่มกลับมาทวน


เรียนไปเรียนมา อยู่ดีๆก็รู้สึกว่า เรียนมาขนาดนี้ละ ไปเยอรมันต่อดีกว่า พร้อมกับอารมณ์ที่ว่า มหาลัยประเทศไทยไม่ใช่สไตล์เรา ทำไมต้องรับน้อง? กิจกรรมอะไรเยอะแยะ? ทำไมต้องบังคับให้นั่งดูคนอื่นเต้น? นั่งทำสแตนด์เชียร์กีฬาสีให้เว่อร์วังอลังการ ได้อะไร? (ก็เรามันไม่ใช่เด็กกิจกรรมนี่หว่า 55) เลยต้องมาเริ่มฟิตภาษา สละสิทธิ์มหาลัยที่ไทย เอาให้ตายไปข้าง แบบว่าถ้าไม่ติดที่เยอรมันนะ ก็ไม่มีที่เรียนกันไปเลย (โหดไปมั้ยอะ!) แต่ด้วยความพยายาม และจนถึงตอนนี้จะยังใช้ภาษาผิดๆ ถูกๆ ก็ยังสามารถสอบผ่าน B1 มาได้สำเร็จ

>> อยากให้กำลังใจคนที่มาเรียนภาษาทุกคนนะ มันต้องใช้เวลาแหละ เรียนไปเรื่อยๆ อย่าท้อ ส่วนตัวแล้วของใหม่เพิ่งเรียน ก็ต้องมีงงเป็นธรรมดา แต่ยิ่งเรียนมันจะช่วยทำให้เราเข้าใจของเก่าๆมากขึ้น เพราะเราได้เจอมันบ่อยขึ้นนั่นเอง ไม่มีใครเก่งได้เพราะเรียนแค่ในห้องหรอก <<

มาพูดถึงการสอบระดับ B1 ให้ฟังหน่อย (Goethe Zertifikat B1)
สอบ 4 part ด้วยกัน ฟัง พูด อ่าน เขียน แต่ไฮไลต์ คือ สอบแยกพาร์ทได้ นั่นหมายถึง ถ้าตก ก็สอบซ่อมเฉพาะ part ได้นั่นเอง ไม่ต้องเสียตังค์ใหม่หมด แต่อยากจะโม้ว่า เราสอบครั้งเดียวผ่านหมด 55 ถ้าตั้งใจไม่ยากแน่นอน

สำหรับคำแนะนำในการสอบ B1
  • การอ่าน ต้องรู้จักศัพท์เยอะๆ จบ.
  • การฟัง ถ้าฟังไม่ทัน คำมันคุ้นๆ แต่จำไม่ได้ ก็อย่าไปนั่งคิดมัน ไม่อย่างงั้นคุณจะไม่ได้อะไรเลย (เหมือนกับตัวเอง พลาดไปตั้งหลายข้อ T T)
  • การเขียน สิ่งที่สำคัญกว่าคำศัพท์อลังการ คือ Grammatik ที่ถูกต้อง (แต่ก็คงไม่ใช้ประโยคสั้นๆเหมือน A1 เข้าใจใช่มั้ย 55) แล้วก็ควรเหลือเวลามาแก้ไขคำที่ผิด อย่างเช่น ผันVerb Artikel ตำแหน่งคำ เป็นต้น
  • การพูด (ต้องขอโม้นิดนึง ว่าตัวเองเป็นผู้โชคดี จำนวนคนสอบเลขคี่ เลยต้องพูดเดี่ยวกับครูคุมสอบ ข้อดีก็คือ คุณจะฟังรู้เรื่อง ชัดเจนแน่นอน แต่ก็จะมาพร้อมกับskill คำศัพท์ที่สูงเกินไปหน่อย ต้องใช้เซนส์ แถๆเอาบ้าง 555) รู้จักโต้แย้ง แย่งซีนพูดให้ได้มากที่สุด พูดผิดดีกว่าไม่พูดนะ แล้วก็ถ้าพูดผิด คิดทันก็พูดใหม่ไปเลย อย่ามาเสียดายทีหลัง (เหมือนกับใครอีกแล้วววว ฮือออ)
อ่อ สำหรับใครจะมาเรียนต่อ Studienkolleg ที่ต้องใช้ภาษาเยอรมัน (สำหรับบางที่ที่รับ B1 นะ ต่ำกว่านี้ไม่มี) ก็ควรจะเรียน B2 ต่อไปบ้างนะ แล้วพอมาถึงจะรู้เอง ว่าทำไมต้องเรียนต่อ 555 (แอบมีอารมณ์สะใจอยู่เล็กๆ หึหึหึ)

และแล้ว ก็มาถึงวันสุดท้าย กับ 3ปีในการเรียนภาษาเยอรมันที่ Goethe Institut อันแสนผูกผัน เรียนกับครูที่นี่มามากกว่า 20 คน (เยอะจริงๆ 55) น้ำตาจะไหลเลยอะ แต่เราก้ต้องเดินต่อไป ส่วนหนทางระหว่างการเรียนภาษา นั่นคือ การเตรียมเอกสาร อันแสนยุ่งยาก ติดตามได้ในบทต่อไปนะครับ วันนี้ฝากไว้แค่นี้ก่อนนะ อิอิ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ปล. อยากฝากเว็บและหนังสือดีๆ ทั้งฝึกภาษา หรือตัวอย่างข้อสอบฟรีๆไว้หน่อยนะ
- DW Deutsch lernen มีทั้ง facebook page ที่มีแบบฝึกหัดให้ทำอยู่ทุกวัน แล้วก็ website ทีมีทั้งคลิป บทความ ข่าวสั้น ตามระดับความรู้เลย
- Deutsch perfekt หนังสือที่มีบทความ พร้อมอธิบายคำศัพท์ยาก (แหล่งคำศัพท์ที่ดีสำหรับการสอบ) และแบบทดสอบ ตามระดับความรู้ ตั้งแต่ A2 - C2 เลยทีเดียว หาอ่านได้ฟรี ที่ห้องสมุด Bibliothek นะ :)
- Wortliste ของข้อสอบ B1 ท่องได้หมดนี่ สอบได้เต็มแน่ 55 ลิงค์ คลิกที่นี่
- Modelltest ฟรีๆ จากเว็บ goethe, hueber, klett, youtube รวมทั้งหนังสือดีๆ จากห้องสมุด Bibliothek ของเรา
(ส่วนตัวไม่แนะนำเล่ม Fit fürs Zertifikat B1 ที่เค้าว่ามันดีกันกันอะนะ เพราะรูปแบบมันต่างกับข้อสอบจริง แต่ถ้าอยากเอาไว้แค่ฝึกคำศัพท์ก็โอเค)



No comments:

Post a Comment